รีวิวเกมส์ บทความเกม Call of Duty เกมส์แนวยิงบุคลที่หนึ่งระดับตำนาน ที่ได้รับความนิยมกันไปทั่วโลก

Call of Duty เกมส์แนวยิงบุคลที่หนึ่งระดับตำนาน ที่ได้รับความนิยมกันไปทั่วโลก

Call of Duty

Call of Duty วิดีโอเกมส์สายทหารแนวยิงในมุมมองของบุคคลที่หนึ่ง ที่หลายคนเล่นมาตั้งแต่เป็นหนุ่มน้อย จนกลายเป็นหนุ่มใหญ่

"<yoastmark

Call of Duty เป็นวิดีโอเกมส์ยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่ง ที่พัฒนาโดย อินฟินิตีวอร์ด และจัดจำหน่ายโดยแอ็กทิวิชัน เป็นเกมส์สำหรับ เอกซ์บอกซ์วัน , เพลย์สเตชัน 4 และ ระบบปฏิบัติการไมโครซอฟท์ วินโดวส์ (วางจำหน่ายเฉพาะที่ร้านค้า Battle.net)

ซึ่งเป็นวิดีโอเกมส์ ที่สร้างอ้างอิงจากเหตุการณ์ในอดีต ทั้งในรูปแบบของเกมส์วางแผนการรบ เกมส์จำลองสถานการณ์ หรือประเภทที่ได้รับความนิยมสูงในอันดับต้น คือเกมส์เดินยิง ในมุมมองบุคคลที่ 1 ที่ผู้เล่นจะได้ สวมบทบาททหารในสนามรบ บุกตะลุยทำภารกิจ ในยุคสมัยต่างๆ

หากเราลองมองย้อนกลับไป เมื่อสองทศวรรษก่อน เกมส์เดินยิงจะมุ่งเน้น ความมันสะใจเข้าว่า คือจะเน้นการสาดกระสุนใส่กันเป็นตับๆ เพื่อที่จะสังหารศัตรูในเกมส์ หรือพูดง่ายๆคือ มีลักษณะความเป็นเกมส์สูง ไม่เน้นความเสมือนจริงเท่าใดนัก

Call of Duty เกมส์ที่มาปฏิวัติวงการเกมส์ แนวยิงแบบทหารอย่างแท้จริง

แต่แล้วในปี 2546 วงการเกมส์ได้ตกตะลึงปากค้าง หลังค่ายผู้ผลิต อินฟินิตี้ วอร์ด ของสหรัฐฯ ได้เปิดตัว “คอล ออฟ ดิวตี้” นำออกวางจำหน่าย โดยหยิบยกเรื่องราว สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มาทำการบอกเล่า ผ่านมุมมองของทหา รฝ่ายสัมพันธมิตร 3 ชาติ คือ อเมริกา อังกฤษ และ รัสเซีย

สิ่งที่ผู้เล่นต่างยกให้เป็น การปฏิวัติวงการ เนื่องมาจากความสมจริง ของสถานการณ์รบ ที่เกิดขึ้นในเกมส์ ซึ่งต่างกับเกมส์ยุคเก่า ไม่ว่าจะเป็นระบบ ที่ให้ผู้เล่นเล็งผ่านศูนย์ยิงของปืน เพื่อความแม่นยำ สเกลการรบขนาดใหญ่ ทหารของฝ่ายผู้เล่น และฝ่ายข้าศึก ที่มีจำนวนล้นหลาม ศพที่ถูกยิง ล้มกองเกลื่อนกราด

หรือการยิงศัตรู ในตำแหน่งสำคัญ เช่นหน้าอกและศรีษะ จะสามารถปลิดชีพข้าศึก ได้ในนัดเดียว ไม่ต้องเปลืองกระสุน ที่มีอย่างจำกัด

Call of Duty ความสมจริงของปัญญาประดิษฐ์

"<yoastmark

นอกจากนี้ปัญญาประดิษฐ์ ( AI ) ของข้าศึก ยังทำให้รู้สึกเหมือนสู้กับคนจริงๆ เพราะศัตรูมีการย่อตัว หมอบคลาน พุ่งตัวหลบ โผล่มายิงจากที่กำบัง หรือแม้กระทั่ง หยิบระเบิดมือที่เราขว้างไป โยนคืนกลับมาใส่ผู้เล่น

จึงเป็นที่มาของภาค 2 และภาค 3 ต่อมาในปี 2548-2549 แต่งานนี้ผู้ผลิต เหมือนจะรับรู้ กระแสตลาดได้อย่างดีว่า เนื้อหาสงครามโลก ชักเริ่มอับเฉา ทำให้ปี 2550 มีการปล่อยภาคใหม่ เนื้อเรื่องใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิม ภายใต้ชื่อว่า คอล ออฟ ดิวตี้ 4 โมเดิร์น วอร์แฟร์ (COD4 : Modern Warfare)

โดยมีเนื้อหาที่หยิบยก เอาสถานการณ์ความขัดแย้ง ในโลกยุคปัจจุบันมาดัดแปลง บอกเล่าผ่านมุมมองของหน่วยรบพิเศษ SAS อังกฤษ สลับกับหน่วย นาวิกโยธินสหรัฐฯ ที่ต้องเข้าไปยับยั้ง กองกำลังติดอาวุธในตะวันออกกลาง และกลุ่มคลั่งชาติในรัสเซีย เพื่อไม่ให้โลกเข้าสู่ สงครามนิวเคลียร์

ขณะที่ โมเดิร์น วอร์แฟร์ ภาค 2 และภาค 3 ที่คลอดตามออกมาติดๆ (2552-2554) ก็มีเนื้อหาต่อเนื่องกัน และเน้นไปทางปฏิบัติการลับ ที่ทำให้ผู้เล่นเกิดคำถาม เรื่องคุณธรรมและความถูกต้อง พร้อมมีฉากการรบขนานใหญ่ ในสถานที่สำคัญของโลก อย่างเช่นหอไอเฟลฝรั่งเศส รัฐสภา และทำเนียบขาวสหรัฐฯ

ด้วยระบบกราฟิกที่ยอดเยี่ยม สวยงามมากขึ้น ระบบการเล่นที่มีความเป็นแอ็กชัน พ่วงกับเนื้อเรื่องระดับบทภาพยนตร์ฮอลลีวูด จึงได้ทำให้ คอล ออฟ ดิวตี้ เป็นเกมส์ที่ตีตลาดถล่มทลาย กวาดรายได้ไปมากกว่า 60,000 ล้านบาททั่วโลก

ซึ่งในขณะเดียวกัน ยังมีการปล่อยแฟรนไชส์ เรื่องราวในแฟ้มลับ ยุคสงครามเย็น-สงครามเวียดนาม อย่าง คอล ออฟ ดิวตี้ แบล็กออปส์ (COD : Black Ops) ออกมาควบคู่ ตอกย้ำความสำเร็จกันไป

เมื่อการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญมาเยือน

"<yoastmark

แต่ในช่วงเวลาดังกล่าว บริษัทแอคทิวิชั่น ที่เข้ามาเทกโอเวอร์แบรนด์ เกิดปัญหาภายใน และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทีมงานสร้างเก่า เป็นจำนวนมาก ได้ทำให้รูปแบบของเกมส์ เน้นไปที่การร่วมเล่นหลายคน หรือมัลติเพลเยอร์ ที่พ่วงมาด้วย การขายของภายในเกมส์ จึงทำให้ความเข้มข้น ของเนื้อหานั้นหดหายไป

ประกอบกับผู้ผลิตชุดใหม่ ตัดสินใจหยิบเอาเรื่องราว ของยุคโลกอนาคตมาเล่น ไม่ว่าจะเป็นภาค แบล็ก ออปส์ 2 (Black Ops 2) แอดวานซ์ วอร์แฟร์ (Advanced Warfare) อินฟินิต วอร์แฟร์ (Infinite Warfare) ในช่วงปี 2555-2559 ซึ่งแฟนคลับส่วนใหญ่มองว่า เล่นสนุกแต่ไม่มีอารมณ์ร่วม ไม่รู้สึกมีส่วนร่วม หรือผูกพันกับตัวละครในเกมส์ เหมือนภาคเก่าๆ แต่ก่อน

อย่างไรก็ตาม ในปี 2560 คอล ออฟ ดิวตี้ ได้ฟื้นคืนมาผงาด ในวงการเรียบร้อย หลังทีมผู้ผลิตตัดสินใจย้อนสู่รากเหง้า นำเรื่องราวสงครามโลกครั้งที่ 2 (ของทหารอเมริกัน) กลับมาภายใต้ชื่อ คอล ออฟ ดิวตี้ เวิลด์ วอร์ 2 (COD : WWII) พร้อมภาพกราฟิกแบบยกระดับ จนทำเงินไปถึง 30,000 ล้านบาทภายใน 1 เดือน

ตามด้วยปี 2562 นี้ บริษัทผู้ผลิตได้ปล่อยใหม่ออกมา 2 ช่วง คือต้นปี คอล ออฟ ดิวตี้ มือถือ (COD : Mobile) ที่โหลดเล่นฟรี แต่มีของให้เสียเงินซื้อในเกมส์ หวังเจาะตลาดทั่วไป

ตามด้วยวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา โมเดิร์น วอร์แฟร์ ภาคใหม่ที่ใช้ชื่อเดิม (Modern Warfare) เน้นความอลังการภาพสมจริง และเนื้อหาที่เข้มข้น อิงเหตุก่อการร้ายสากล และสถานการณ์ในซีเรีย ที่ใช้ชื่อสมมติว่าประเทศ อูร์ซิคสถาน เพื่อตอบโจทย์แฟนคลับ ที่ยังคงอินกับเนื้อหาเดิม

เส้นทางของเกมส์ฟอร์มยักษ์อย่าง คอล ออฟ ดิวตี้ ที่ดำเนินมานานกว่า 16 ปี คงไม่จบเพียงแค่นี้ หากองค์ประกอบ ทุกสิ่งอย่างที่อยู่ในเกมส์ ยังคงทำออกมาได้ถูกใจแฟนๆ ก็เชื่อว่าผลกำไรของบริษัทผู้ผลิต ก็จะยังคงเติบโต ต่อไปเรื่อยๆ ด้วยเช่นกัน

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Related Post